อนุบาลกุ้งก่อนปล่อยลงบ่อเลี้ยง ลดระยะเวลาเลี้ยงได้ จับกุ้งได้เร็วขึ้นอย่างไร

มาฟังจาก คุณฉัตรกุล ถิ่นท่าเรือ (พี่สำราญ) เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติปี 2558
สาขา อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อยกันครับ สำราญฟาร์มอยู่ที่ ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          สำราญฟาร์มเน้นให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพกุ้งมาก โดยมีการดูแลอย่างใกล้ชิด และเช็คเชื้อและมีการทำแล๊บเองด้วย โดยมีทางเทคนิคต่างๆภายในฟาร์มจะมีคุณกุ้ง ลักขณา ถิ่นท่าเรือ ลูกสาวคนโต เป็นหัวเรียวหัวแรงหลักเข้ามาช่วยงานได้ประมาณ 1 ปีแล้ว คุณกุ้งมีดีกรีวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตสาขาเคมีจามหาวิทยาลัยมหิดล และเกียรตินิยมอันดับหนึ่งระดับปริญญาโทสาขาการจัดการโลจิติกส์และซัพพลายเซนจากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมซิตี้ ประเทศอังกฤษ
          พี่สำราญกล่าวว่าหลังจากที่ลูกสาวได้เข้ามามีบทบาทในฟาร์ม การจัดการภายในฟาร์มก็ดำเนินงานอย่างมีแบบแผน มีการเก็บข้อมูลเป็นระบบ และใช้ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์มากขึ้นทำให้ควบคุมปัจจัยคุณภาพต่างๆง่ายขึ้น ปิดประตูความเสี่ยงต่างๆได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตในฟาร์มคงที่ ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อก่อนพี่สำราญได้ชำกุ้ง หรืออนุบาลกุ้งในถัง 3,000ลิตร โดยปล่อย 300,000ตัว ต่อบ่อ และอนุบาลประมาณ 3 วันก่อนปล่อย แต่เนื่องจากทางพี่สำราญเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุบาล เพราะการอนุบาลกุ้งนั้นจะช่วยลดระยะเวลาเลี้ยงลง ประมาณ 60 กว่าวันก็สามารถจับกุ้งได้ เป็นการช่วยลดทุนต้นทุนอีกทางด้วย

          พี่สำราญจึงได้เปลี่ยนมาการอนุบาลกุ้งในโรงเรือนรูปแบบปิด ตั้งแต่ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2558) โดยปัจจุบันมีจำนวน บ่ออนุบาล 12 บ่อ โดยบ่ออนุบาลเป็นบ่อปูน ขนาด กว้างและยาว 5 x 5 เมตร ความลึกบ่อ 1.5 เมตร ความลึกของน้ำอยู่ที่ 1.2 เมตรการปล่อยกุ้งในการอนุบาล ประมาณ 5 แสนตัวต่อบ่อ ระยะเวลาการเลี้ยงในบ่ออนุบาล ประมาณ 21 วันก่อนปล่อยลงสู่บ่อเลี้ยง เหตุผลที่ลงทุนทำบ่ออนุบาลแบบบ่อปูนเพราะ พื้นที่มากกว่าแบบการเลี้ยงในถัง สามารถอนุบาลกุ้งภายในบ่อได้นานขึ้น จากเดิม 3วัน สามารถเลี้ยงได้นานถึง ประมาณ 7 - 21 วัน และยังสามารถควบคุมคุณภาพน้ำง่ายขึ้น สำหรับออกซิเจนที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัย สำคัญสำหรับความแข็งแรงของลูกกุ้ง และยังช่วยให้สามารถเลี้ยงกุ้งแบบหนาแน่นได้นั้น พี่สำราญมั่นใจเลือกใช้ บับเบิ้ลสตาร์ใน
การให้ออกซิเจนแก่กุ้งในบ่ออนุบาล เพราะว่าใช้งานง่าย ฟองละเอียด ให้ออกซิเจนสูงได้ดี วัสดุทนทาน รวมทั้งสามารถทำความสะอาดได้ง่าย พี่สำราญจะเปิดใช้บับเบิ้ลสตาร์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยควบคุม ค่า DO ไม่ต่ำกว่า 4.5 ในตอนกลางคืนหรือช่วงออกซิเจนต่ำ ถ้าค่าไม่ต่ำกว่านี้ถือว่าเพียงพอ

          พี่สำราญกล่าวว่า ปริมาณออกซิเจนในน้ำมีผลต่อคุณภาพน้ำมาก เพราะยิ่งปริมาณกุ้งหนาแน่นในบ่ออนุบาล ประมาณ 5 แสนตัว/บ่อ และระยะเวลาการเลี้ยงประมาณ 21 วัน จำนวนอาหารที่ให้กุ้งก็มากขึ้นตามความหนาแน่นและของเสียที่กุ้งขับถ่ายก็มากเช่นกัน นอกจากออกซิเจนสำหรับลูกกุ้งเองแล้วยังต้องมีออกซิเจนสำหรับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้การย่อยสลายแร่ธาตุและของเสียในบ่อเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น ออกซิเจนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ จะต้องเพิ่มออกซิเจนให้เพียงพอต่อการใช้งานในบ่อ

ข้อมูลการเลี้ยง

• ขนาดบ่ออนุบาล 5 x 5 เมตร ความลึกบ่อ 1.5 เมตร
• จำนวนปล่อยกุ้ง 5 แสนตัว/บ่อ
• เลี้ยงน้ำลึกเฉลี่ย 1.2 เมตร
• บับเบิ้ลสตาร์ ดัดแปลงโดยถ่วงปูนเพิ่มขึ้น มีน้ำหนักรวม ประมาณ 5 กิโลกรัม และ ใช้สายยางเติมอากาศโอทูบับเบิ้ล ความยาว เส้นละ 30เซนติเมตร
• ปั้มลม รูทโบลเวอร์ 4 นิ้ว พร้อม มอเตอร์ 7 แรงม้า
  

............................................................................

สำหรับท่านใดสนใจ หรือขอรับคำปรึกษาได้ที่
โทร : 085-958-9792, 061-823-6494, 061-823-6495, 02-873-7995
Line Official : @o2bubbles (กดแอดLine)
Facebook : O2 bubbles aeration hose สายยางเติมอากาศโอทูบับเบิ้ล
Youtube : Kasipantarut Company Limited